ประวัติรถจักรยาน

จักรยาน
จักรยาน

จักรยานตามที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันโดยทัวไปแล้ว จะมีสองล้อ ถ้ามีล้อมากกว่านั้นก็จะเป็นจักรยานสำหรับเด็ก หรือผู้ที่หัด ขี่จักรยานเป็นครั้งแรกบ้างก็มีสามล้อ หรือ ที่เราเรียกกันว่ารถสามล้อสมัยก่อนเดียวนี้จะเห็นรถสามล้อถีบรับจ้าง ส่วนมากจะอยู่ทาง ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง เป็นต้น จังหวัด อื่นก็มีนะครับ แต่ที่ไม่ได้เขียนลงไปเพราะ เดี๋ยวมันจะยาวครับ

จักรยานคันแรกนั้นจากที่ผมได้ไปหาข้อมูลมานั้น เห็นว่าได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2377 ผู้สร้างคือ นาย Kirkpatrick Mcmillan เขาเป็นชาวสกอตแลนด์ โดยต่อมา จักรยานก็ได้มีการพัฒนามาเลื่อยๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2408 ได้มีสองนักประดิษฐ์ คือ Pierre Michaux และ Pierre Lallement ชาวฟรั่งเศส โดยทั้งสองได้ประดิษฐ์จักรยานขึ้นมาใหม่ โดยทำให้จักรยานมี ชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นมาคือ มี บรรไดถีบ และ โซ่ เพิ่มเข้ามา แต่สมัยก่อนล้อยังไมีมีการสูบลมเข้าไปนะครับ เวลาขี่จึงกระเทือนมากเลยครับ เอ “พูดเหมือนเคยขี่” ที่จริงไม่เคยขี่หลอกครับ พูดเล่นครับ เดี๋ยวจะหลับกันหมด เข้าเรื่องต่อเลยดีกว่าครับ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2422-2428 จักรยานได้มีการพัฒนาขึ้นอีก โดยการมีการ ทำให้ยางสามารถ สูบลมเข้าไปได้ เพื่อให้ขี่ได้นุ่มนวลขึ้น ต้องขอบคุณ เขาเลย คือ นาย “J.K. Starley” ต่อมาในปี พ.ศ. 2436 ได้มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยขึ้นมา คือ ระบบเบรค หลังจากนั้น จักรยานก็ได้มีการพัฒนามาเลื่อยๆจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2441 ได้มีการออกแบบให้จักรยานมีล้อหน้า และ ล้อหลัง (เอ แล้วเมื่อก่อนขี่กันยังไงละ!!)และ ได้มีการพัฒนามาเลื่อยๆ จนมีรูปแบบ เหมือนที่พวกเราเห็นกันทุกวันนี่แหละครับ

ส่วนบ้านเรานั้นจักรยานเข้ามาแพร่หลาย ในสมัย รัชกาลที่ 5 ใน ปัจจุบันจักรยานได้มีการพัฒนาขึ่นมาก ทั้งรูปแบบ และ วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตเฟรม และส่วนประกอบ แล้วแต่ จุดประสงค์ ว่าจะนำไปใช้ทางด้านใหน

ประวัติของจักรยาน

                                  ประวัติ ความเป็นมา จักรยาน

รถจักรยาน เป็นพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนไปโดยกำลังของกล้ามเนื้อมนุษย์ รถจักรยานนอกจากจะต้องเบา ก็จะต้องมีความฝืดที่เกิดขึ้นระหว่าง ล้อกับพื้นดินน้อยที่สุด และอาจจะเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นได้พอสมควร
ก่อนคริสต์ศักราช 2300 ปี ชาวจีนได้ประดิษฐ์ยานพาหนะทางบกที่มีลักษณะคล้ายรถจักรยานขึ้น และต่อมาชาวอียิปต์ และอินเดียก็ได้ประดิษฐ์ขึ้นเช่นเดียว กันแต่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะรูปร่าง
ในปี ค.ศ. 1790 ชาวฝรั่งเศษชื่อ Count Mede de Sivrac ได้ประดิษฐ์ยานพาหนะคล้ายรถจักรยาน ประกอบด้วยล้อ 2 ล้อ เชื่อมกันด้วยไม้ ทำเป็นรูป คล้ายหลังม้า หรือหลังสัตว์ต่างๆ และเคลื่นที่ไปข้างหน้าด้วยการไสด้วยเท้า ใช้ชื่อยานพาหนะนี้ว่า Celerifere หรือ Velocifere มาจากภาษาลาติน Cefer แปลว่า เร็ว และ Fere แปลว่า บรรทุก
ต่อมาในระหว่างปี ค.ศ. 1816 – 1818 Baron Karl Friedrich von drais de Sauerbrun ชาวเยอรมันได้ปรับปรุง Celerifere ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ สำหรับบังคับทิศทาง และมีที่นั่งที่มีสปริง และถือว่าเป็นรถจักรยานคันแรก ของโลก
ในฝรั่งเศษ ได้นำมาใช้ และให้ชื่อว่า Draiseinne เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ได้ ประดิษฐ์ขึ้น ศาสตราจารย์ David Gordon Wilson แห่ง MIT ได้กล่าวว่า von Drais เป็นผู้ประดิษฐ์จักรยานคันแรกของโลกสำหรับในอังกฤษ ไม่เห็นด้วยกับชื่อที่ฝรั่งเศษได้ตั้งขึ้น และตั้งชื่อใหม่ว่า “Hobby horse หรือ Danny horse” ในปี ค.ศ. 1820 von Drais ได้ทำสถิติขึ้นเป็นครั้งแรกในประวิติศาสตร์ของรถจักรยาน โดยขี่ระหว่างเมือง Beaume กับเมือง Dijon ด้วยความเร็ว ชั่วโมงละ 15 กิโลเมตร
ในปี ค.ศ. 1821 นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ชื่อ นาย Louis Gompertz ได้ปรับปรุง Draisienne โดยใส่เกียร์และสลักที่ล้อหน้า แต่ยังคงใช้เท้าไสไปบนพื้น ถ้า ใครที่ขาแข็งแรงดีก็สามารถทำความเร็วได้ 16 – 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ต่อมาในปี ค.ศ. 1839 Kirkpatrick MacMillan ช่างทำเกือกม้าชาวสกอตซ์ ได้เปลี่ยน hobby horse มาเป็นรถจักรยาน โดยเลิกการใช้เท้าไสไปบนพื้นดิน และใส่ก้านบันไดที่ล้อหน้าผู้ขี่จะปั่นลูกบันไดและบังคับตัวรถโดยเท้าไม่ต้องแตะพื้นดิน ทำให้มีรูปร่างคล้ายรถจักรยานมากขึ้น
ในปี ค.ศ. 1860 สองพี่น้อง Pirre และ Ernest Michaux ชาวฝรั่งเศษ ได้ประดิษฐ์รถจักรยานที่มีล้อหน้าและล้อหลังเกือบเท่ากัน และใช้ กำลังขับเคลื่อนโดยการติดตั้งก้านบันไดที่ดุมล้อหน้า เรียกว่า Velocipede
Pierre Lallement ซึ่งแยกตัวออกจากครอบครัว Michaux และได้ต่อ Velocipede ขึ้น และได้รับความนิยมมาก ชาวอเมริกัน ให้ฉายาว่า boneshaker
ต่อมาถึงช่วงของผู้ประดิษฐ์ ยอดเยี่ยมชาวอังกฤษชื่อ James Starley ได้ปรับปรุงตามแบบ boneshaker ของ Michaux และภายหลังได้รับ ความสำเร็จในการประดิษฐ์รถจักรยานที่เรียกว่า “Penny Farthing” (เหรียญบาท กับเหรียญสลึง) คือล้อหน้าเหมือนเหรียญ เพ็นนีของอังกฤษ และล้อหลังเล็กเหมือนเหรียญฟาร์ทิง
เนื่องจากรถจักรยานเหรียญบาท และเหรียญสลึงค่อนข้างอันตราย ในปี 1879 H.J. Lawson ได้ประดิษฐ์รถจักรยานนิรภัย ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ไม่ได้ประดิษฐ์สู่ตลาด ต่อมาในปี ค.ศ.1884 James Starly ได้ประดิษฐ์ รถจักรยานแบบนิรภัย ซึ่ง ประกอบด้วยล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน และโซ่โยงไปกับล้อหลัง
ในปี ค.ศ. 1880 Humber และคณะได้ผลิตรถจักรยานตัวถังเป็นรูปขนมเปียกปูน ซึ่งเป็นแบบอย่างของจักรยานสมัยปัจจุบันนี้
ในปี ค.ศ. 1984 การแข่งขันจักรยานยนต์ในกีฬาโอลิมปิก สหรัฐอเมริกา ได้มีการวิวัฒนาการจักรยานมากที่สุด ตัวถังรถจักรยานเปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เป็นรูปสามเหลี่ยม ให้กับทีมจักรยานแบบทีมเปอร์ซูทของสหรัฐฯ ใช้ในการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิก ความจริงการวิวัฒนาการนี้มิได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มอนเต้ แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาของอิตาลี ได้ประดิษฐ์จักรยานรูปสามเหลี่ยมให้ ฟรังเดสโก้ โมเชอร์ เวลา 60 นาที สามารถขี่ได้ระยะทาง 50.644 กม. ที่สนาม ในร่มเมืองสตุตการ์ท เยอรมันตะวันตก
จักรยานเข้ามาแพร่หลายในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการประชุมรถจักรยานเป็นครั้งแรกที่วังบูรพาภิรมย์ เนื่องในโอกาส ที่กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จกลับจากยุโรป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จ พระราชดำเนิน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2442
ในปัจจุบันมีจักรยานหลายชนิด มีตั้งแต่ 1 ล้อ ไปจนถึงหลายล้อ หรือจักรยานที่มีการดัดแปลงแบบแปลกๆ เช่น มีล้อหน้าใหญ่ แต่ล้อหลังเล็ก จักรยานยัง เป็นเครื่องมือในการแข่งขันกีฬาประเภทหนึ่งด้วย
วันที่ 22 กันยายน และทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือนกันยายนเป็นวันปลอดรถ (Car Free Day) มีการรณรงค์ ให้ประชาชน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้รถจักรยาน เพื่อรถมลภาวะ และรักษาสิ่งแวดล้อมโลก

รถจักรยาน
รถจักรยาน
รถจักรยานรับจ้างทับผ้า,รีดผ้า สมัยรัชกาลที่ 6

รถจักรยานรับจ้างทับผ้า,รีดผ้า สมัยรัชกาลที่ 6

จักรยานรับจ้างทับผ้า รีดผ้า สมัยรัชกาลที่ 6

จักรยานรับจ้างทับผ้า รีดผ้า สมัยรัชกาลที่ 6

จักรยาน เดตอน สมัยรัชกาลที่ 5 ตามบันทึกชื่อในจดหมายเหตุรายวัน

จักรยาน เดตอน สมัยรัชกาลที่ 5
ตามบันทึกชื่อในจดหมายเหตุรายวัน

จักรยานอาชีพ ขายล็อตเตอรี่

จักรยานอาชีพ ขายล็อตเตอรี่

จักรยาน
จักรยานติดเครื่องประกอบในไทย

จักรยานติดเครื่องประกอบในไทย

จักรยาน เพนนีฟาร์ทิง

จักรยาน เพนนีฟาร์ทิง

จักรยาน Humber ผ่าหวาย

จักรยาน Humber ผ่าหวาย

จักรยานคานคู่ ตรา RALEIGH

จักรยานคานคู่ ตรา RALEIGH

จักรยาน ตรา อาวุธ

จักรยาน ตราอาวุธ

จักรยาน
จักรยาน ตรา ROYAL ENFILED

จักรยาน ตรา ROYAL ENFILED

จักรยาน
จักรยาน ตรา Royal Enfield

จักรยาน ตรา Royal Enfield

จักรยาน ตรา Wearwell

จักรยาน ตรา Wearwell

จักรยาน RUDGE ตรากลม คันเดียวในไทย

จักรยาน RUDGE ตรากลม คันเดียวในไทย

จักรยานพับได้ PUPPY ของญี่ปุ่นรุ่นแรก

จักรยานพับได้ PUPPY ของญี่ปุ่นรุ่นแรก

จักรยาน

จักรยาน

จักรยาน เดตอน

จักรยาน เดตอน

จักรยาน Raleigh คอยาว 12 นิ้ว

จักรยาน Raleigh คอยาว 12 นิ้ว